ต่อ ICU ปัญญาอ่อน

บทความนี้ต่อมาจากบทความ “ต่อ ICU ไปไม่เป็น”  การที่ผมลงความเห็นว่า ต่อ ICU ปัญญาอ่อน ผมมีเหตุผลดังนี้

คุณต่อ ICU อยากจะแสดงความคิดความเห็นในเว็บบอร์ด คุณต่อ ICU ทำได้อย่างเดียวคือ ไปลอกหนังสือของพระประยุทธ์มาลง

พอมีคนถาม ก็ตอบไม่ได้  ให้ไปถามพระประยุทธ์เอง  อ้าว... แล้วเสียเวลาเอาหนังสือมาลงกระทู้ทำไม

ก็ให้คนที่สนใจ ดาวน์โหลดไปอ่านเสียก็สิ้นเรื่อง 

จากบทความชิ้นที่ 1 มีข้อเขียนของคุณต่อ ICU ดังนี้ 

เรียนคุณ เสาริมทะเล

ขอบคุณครับสำหรับกำลังใจ .. (ไม่ ต้องห่วงครับ ...:)..จะทำให้ดีที่สุด..และผมต้องขอบคุณครอบครัว พ่อ แม่ พี่สาว น้องชาย พี่เขย เพื่อนๆที่ให้โอกาสผม  มอบเวลาและทุนทรัพย์ ปัจจัยสี่ในการดำรงชีพทำให้ผมได้ทำในสิ่งที่เหล่านี้อย่างเต็มที่ ...

ขออนุโมทนาท่านที่ผมเอ่ยถึงด้วยครับ

อ้าว...อย่างนี้ก็ตกงาน เกาะครอบครัวกิน  แล้วจะเอาเวลามาทำเรื่องไร้สาระทำไม

ทำไมไม่ไปหางาน ไม่ต้องเป็นภาระของครอบครัว  เฮ้อ..ปัญญาอ่อนจริงๆ

ในกรณีการเขียนความเห็นในเว็บบอร์ด หรือในบล็อก ในเว็บไซต์ ถ้าเป็นความเห็นของผู้เขียนเอง ผมก็เห็นด้วย

นี่ไปเอาหนังสือของคนอื่นมา ลงทีละตอนๆ  มันจะมีประโยชน์อะไร

ไม่ปัญญาอ่อน ก็บ้าแล้ว

ในบทความชิ้นที่สอง ก็มีข้อความนี้

เรียน คุณ pa-o คห 6

ขอบคุณครับ ไม่คิดจะโหวตหรือให้ถูกใจบ้างหรือครับ? เก็บเข้าคลังกระทู้ให้ด้วยยิ่งขอบคุณครับ

เอาหนังสือของคนอื่นมา ลงทีละตอนๆ แล้วยังให้ขอให้คนอื่นโหวตให้อีกด้วย

โอย............ อย่างนี้เพิ่งเคยพบเคยเห็น

ผมพยายามจะจับประเด็นของ ต่อ ICU กับพระประยุทธ์เพื่อจะนำมาวิพากษ์วิจารณ์ ได้มาข้อความหนึ่งแล้ว คือ

1) วิชชาธรรมกายไม่มีในพระไตรปิฎก

ก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์ต่อไป ขอเท้าความเดิมนิดหนึ่ง เรื่องนี้ พระประยุทธ์หน้าแตกหมอไม่รับเย็บมาเที่ยวหนึ่งแล้ว

แรกๆ เลย พระประยุทธ์-พระธรรมปิฎก ยืนยันเลยว่า คำว่า “ธรรมกาย” ไม่มีในพระไตรปิฎก

พอลูกศิษย์วัดปากน้ำ ช่วยกันหา ปรากฏว่า พบมากมาย  ก็หาเรื่องโจมตีใหม่  นิสัยของพระรูปนี้ก็เป็นแบบนี้

ถ้ามีคนมาโจมตีผมแบบนี้  ผมจะตอบดังนี้

พระไตรปิฎกนั้น เป็นเหมือนหลักสูตร เป็นหลักการกว้างๆ ไม่ได้ลงรายละเอียด แล้วในการตรวจสอบว่า “คำสอน” ของใครตรงกับพระไตรปิฎกหรือไม่  เขาไม่ได้ตรวจสอบทีละคำๆ

เราต้องดูความหมายเทียบเทียงกับพระสูตรกับพระวินัย

ถ้าดูกันแบบที่ว่านั้น  วิชชาธรรมกายอธิบายพระไตรปิฎกดีที่สุด ดีกว่าหนังสือขยะที่ชื่อ “พุทธธรรม” หลายร้อยเท่า

ตัวอย่างที่ 1 “มีดวงตาเห็นธรรม” 

คำว่า “มีดวงตาเห็นธรรม”  พุทธวิชาการกับพวกบ้าปริยัติอธิบายกันมั่วไปหมด บรรลุโสดาบันบ้าง ฯลฯ 

ธรรมนั้น ในส่วนที่ละเอียดที่สุดมีลักษณะเป็น “ดวง” ทั้งสิ้น  เมื่อเดินวิชา 18 กายได้แล้ว ก็จะเห็นดวงธรรมที่ฐานที่ 7 ทุกคน

นี้แหละคือ มีดวงตาเห็นธรรม

ตัวอย่างที่ 2 “ผู้ใดเห็นดวงธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต ตถาคตคือ ธรรมกาย”

ดวงธรรมของผู้ใด จะมีขนาดเท่าหน้าตักของผู้นั้น  ดังนั้น เมื่อกายธรรมนั่งอยู่ ก็จะนั่งอยู่ในดวงธรรม

ใครเห็นดวงธรรมก็ต้องเห็นกายธรรม  กายธรรมนั้นก็คือ ตถาคต

อย่าไปคิดว่า เหมือนกายธรรมนั่งอยู่ในสิ่งของหรือภาชนะ ดวงธรรมละเอียดมาก จึงไม่มีความรู้สึกว่า นั่งอยู่ในอะไร  แต่เห็นอย่างนั้น

ตัวอย่างที่ 3 “เอกายนมรรค”

คำว่า “เอกายนมรรค” คือ ทางสายเอก หรือทางสายเดียว หัวข้อธรรมะทุกหัวข้อเป็นดวงทั้งสิ้น  ดวงทุกดวงมีจุดศูนย์กลางเดียวกัน เล็กเท่าปลายเข็มอยู่ที่ฐานที่ 7

ดังนั้น จะศึกษาอะไร ก็ต้องศึกษาไปที่จุดเล็กใสเท่าปลายเข็มที่ฐานที่ 7 นี้ทีเดียว  จุดนี้แหละ คือ ทางสายกลาง และเป็นทางสายเดียว

กลับไปที่คำถามปัญญาอ่อนของ ต่อ ICU กับพระประยุทธ์ ที่ว่า “วิชชาธรรมกายไม่มีในพระไตรปิฎก”  ถ้าเอาเกณฑ์ของคนปัญญาอ่อนทั้งคู่มาจับ

สายปฏิบัติธรรมทุกสายในประเทศไทย ไม่มีอยู่ในพระไตรปิฎกทั้งสิ้น

ในพระไตรปิฎกมีหรือ “ยุบหนอ พองหนอ”

ในพระไตรปิฎกมีหรือ “พุท ลมเข้า โธ ลมออก”

ในพระไตรปิฎกมีหรือ “สมาธิเคลื่อนไหว” แบบหลวงพ่อเทียน

ปัญญาอ่อนจริงทั้ง ต่อ ICU กับพระประยุทธ์